ถวายพัดรองอักษรพระนาม ณ สำนักเรียนวัดโมลีโลกยาราม ประจำปี ๒๕๖๗
วันพฤหัสบดี ที่ ๖ มีนาคม ๒๕๖๘ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเ […]
ถวายพัดรองอักษรพระนาม ณ สำนักเรียนวัดโมลีโลกยาราม ประจำปี ๒๕๖๗ Read More »
วันพฤหัสบดี ที่ ๖ มีนาคม ๒๕๖๘ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเ […]
ถวายพัดรองอักษรพระนาม ณ สำนักเรียนวัดโมลีโลกยาราม ประจำปี ๒๕๖๗ Read More »
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ ทรงรับสหพันธ์สมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดนแห่งประเทศไทยไว้ในพระอุปถัมภ์ ทรงเป็นประธานในการพระราชทานดุมและเข็มเครื่องหมายแก่สมาชิกของสมาคมฯ เสด็จไปทรงเป็นประธานในงานการกุศลและกิจกรรมต่าง ๆ ที่สมาคมฯ จัดขึ้นเป็นประจำ อีกทั้งเสด็จไปทรงฝึกระเบียบทหาร การรับการถวายความเคารพ และทรงฟังบรรยายวิชาทหารที่กรมการรักษาดินแดน แสดงให้เห็นว่าสมเด็จเจ้าฟ้าฯ มิได้ทรงพอพระทัยอยู่แค่การเป็นผู้อุปถัมภ์เพียงในพระนาม หากแต่ยังทรงได้ชื่อว่าเป็น “สมาชิก ส.อ.ร.ด.” ผู้ผ่านการฝึกฝนโดยครบถ้วนสมบูรณ์แล้วอย่างแท้จริง
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ ผู้ทรงเป็นสายพระโลหิตเพียงพระองค์เดียวของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติมาในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อของบ้านเมือง ที่ทั้งหญิงและชายต่างสามารถช่วยเหลือกันแสดงน้ำใจรักชาติได้อย่างเท่าเทียม จึงทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของทั้งกิจการลูกเสือและเนตรนารี ทรงอุปการะกิจการลูกเสืออย่างจริงจังสมกับที่ดำรงตำแหน่ง “องค์อุปถัมภิกาคณะลูกเสือแห่งชาติ” และทรงร่วมฟื้นฟูและรับกิจการเนตรนารีไว้ในพระอุปถัมภ์ พระราชทานนามคณะเนตรนารีว่า “คณะเนตรนารีเพชราวุธ”
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ ผู้ทรงเป็นสายพระโลหิตเพียงพระองค์เดียวของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติมาในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อของบ้านเมือง ที่ทั้งหญิงและชายต่างสามารถช่วยเหลือกันแสดงน้ำใจรักชาติได้อย่างเท่าเทียม จึงทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของทั้งกิจการลูกเสือและเนตรนารี ทรงอุปการะกิจการลูกเสืออย่างจริงจังสมกับที่ดำรงตำแหน่ง “องค์อุปถัมภิกาคณะลูกเสือแห่งชาติ” และทรงร่วมฟื้นฟูและรับกิจการเนตรนารีไว้ในพระอุปถัมภ์ พระราชทานนามคณะเนตรนารีว่า “คณะเนตรนารีเพชราวุธ”
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ ผู้ทรงเป็นสายพระโลหิตเพียงพระองค์เดียวของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติมาในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อของบ้านเมือง ที่ทั้งหญิงและชายต่างสามารถช่วยเหลือกันแสดงน้ำใจรักชาติได้อย่างเท่าเทียม จึงทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของทั้งกิจการลูกเสือและเนตรนารี ทรงอุปการะกิจการลูกเสืออย่างจริงจังสมกับที่ดำรงตำแหน่ง “องค์อุปถัมภิกาคณะลูกเสือแห่งชาติ” และทรงร่วมฟื้นฟูและรับกิจการเนตรนารีไว้ในพระอุปถัมภ์ พระราชทานนามคณะเนตรนารีว่า “คณะเนตรนารีเพชราวุธ”
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ ทรงรับสหพันธ์สมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดนแห่งประเทศไทยไว้ในพระอุปถัมภ์ ทรงเป็นประธานในการพระราชทานดุมและเข็มเครื่องหมายแก่สมาชิกของสมาคมฯ เสด็จไปทรงเป็นประธานในงานการกุศลและกิจกรรมต่าง ๆ ที่สมาคมฯ จัดขึ้นเป็นประจำ อีกทั้งเสด็จไปทรงฝึกระเบียบทหาร การรับการถวายความเคารพ และทรงฟังบรรยายวิชาทหารที่กรมการรักษาดินแดน แสดงให้เห็นว่าสมเด็จเจ้าฟ้าฯ มิได้ทรงพอพระทัยอยู่แค่การเป็นผู้อุปถัมภ์เพียงในพระนาม หากแต่ยังทรงได้ชื่อว่าเป็น “สมาชิก ส.อ.ร.ด.” ผู้ผ่านการฝึกฝนโดยครบถ้วนสมบูรณ์แล้วอย่างแท้จริง
“…สมเด็จเจ้าฟ้าฯ ทรงใช้ชีวิตอยู่ในประเทศอังกฤษเป็นเวลานาน ทำให้ทรงมีโอกาสได้คลุกคลีกับวิถีชีวิตของสตรีชาวอังกฤษ ที่มีบทบาทในการพัฒนาบ้านเมือง เคียงบ่าเคียงไหล่กับบุรุษอย่างเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะในการเสด็จออกไปปฏิบัติพระกรณียกิจนอกวังของเจ้านายสตรี
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ ทรงรับสหพันธ์สมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดนแห่งประเทศไทยไว้ในพระอุปถัมภ์ ทรงเป็นประธานในการพระราชทานดุมและเข็มเครื่องหมายแก่สมาชิกของสมาคมฯ เสด็จไปทรงเป็นประธานในงานการกุศลและกิจกรรมต่าง ๆ ที่สมาคมฯ จัดขึ้นเป็นประจำ อีกทั้งเสด็จไปทรงฝึกระเบียบทหาร การรับการถวายความเคารพ และทรงฟังบรรยายวิชาทหารที่กรมการรักษาดินแดน แสดงให้เห็นว่าสมเด็จเจ้าฟ้าฯ มิได้ทรงพอพระทัยอยู่แค่การเป็นผู้อุปถัมภ์เพียงในพระนาม หากแต่ยังทรงได้ชื่อว่าเป็น “สมาชิก ส.อ.ร.ด.” ผู้ผ่านการฝึกฝนโดยครบถ้วนสมบูรณ์แล้วอย่างแท้จริง
สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี พระผู้พระราชทานและประทานกำเนิดมูลนิธิฯ ทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่างอันดีของพุทธศาสนิกชน พระนางเจ้าสุวัทนาฯ ทรงได้ชื่อว่าเป็น ‘ผู้ไม่ประมาทในบุญกิริยา’ คือทรงขวนขวายที่จะบำเพ็ญพระกุศลอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกิจการพระศาสนาและสาธารณประโยชน์ อีกทั้งทรงอบรมให้สมเด็จเจ้าฟ้าฯ มีพระทัยโน้มฝักใฝ่ในทางพระพุทธศาสนาเป็นนิจศีล ก่อนจะทรงแสดงอะไรออกมาไม่ว่าจะทางกายหรือวาจา จะต้องผ่านกรองแห่งธรรมะที่คอยกำกับพระทัย