เรื่องเล่าพระผู้ทรงก่อตั้งมูลนิธิเพชรรัตน-สุวัทนา สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ ฯ และพระนางเจ้าสุวัทนา ฯ พระผู้ทรงความดีอันเฟื่องฟุ้งขจรขจายไปทุกทิศ

สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในรัชกาลที่ ๖ ทรงเป็นตัวอย่างของสัตบุรุษผู้มีกลิ่นหอมของคุณงามความดี เฟื่องฟุ้งขจรขจายไปทุกทิศ ดังปรากฏในหนังสือ ดวงแก้วแห่งพระมงกุฎเกล้า ความว่า

“…เมื่อสองพันห้าร้อยกว่าปีก่อน พระสาวกท่านหนึ่งนามว่า ‘พระอานนท์’ ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลถามว่า

‘ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ กลิ่นหอม ฟุ้งไปแต่ตามลมอย่างเดียว ฟุ้งทวนลมไปไม่ได้ แต่กลิ่นหอมชนิดที่ฟุ้งไปตามลมก็ได้ ฟุ้งทวนลมไปก็ได้ ฟุ้งไปทั้งตามลมและทวนลมก็ได้ ยังจะมีอยู่หรือ’

‘ดูกรอานนท์ กลิ่นหอมที่ฟุ้งไปตามลมก็ได้ ฟุ้งไปทวนลมก็ได้ ฟุ้งทั้งไปตามลมและทวนลมก็ได้มีอยู่ฯ’

สมเด็จพระบรมศาสดาตรัสตอบพระอานนท์ผู้เป็นพุทธอนุชา ทรงอธิบายว่า ‘กลิ่นสัตบุรุษ’ อันหมายถึงกลิ่นหอมคุณงามความดีของคนดีผู้ยึดมั่นในพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นสรณะ และหมั่นรักษา ‘เบญจศีล’ อยู่เป็นนิจนั่นแหละ ย่อมหอมทวนกระแสลม เฟื่องฟุ้งไปได้ทุกทิศ…”

สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี พระผู้พระราชทานและประทานกำเนิดมูลนิธิฯ ทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่างอันดีของพุทธศาสนิกชน พระนางเจ้าสุวัทนาฯ ทรงได้ชื่อว่าเป็น ‘ผู้ไม่ประมาทในบุญกิริยา’ คือทรงขวนขวายที่จะบำเพ็ญพระกุศลอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกิจการพระศาสนาและสาธารณประโยชน์ อีกทั้งทรงอบรมให้สมเด็จเจ้าฟ้าฯ มีพระทัยโน้มฝักใฝ่ในทางพระพุทธศาสนาเป็นนิจศีล ก่อนจะทรงแสดงอะไรออกมาไม่ว่าจะทางกายหรือวาจา จะต้องผ่านกรองแห่งธรรมะที่คอยกำกับพระทัย

พระนางเจ้าสุวัทนาฯ ทรงสอนให้สมเด็จเจ้าฟ้าฯ ทรงสวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำทุกค่ำคืน ครั้นถึงวันบูชาพิเศษ เช่น วันมาฆบูชา ตอนเช้าก็จะเสด็จลงทรงบาตร และเสด็จไปทรงเวียนเทียนประทักษิณรอบเจดียสถานในตอนเย็นเป็นประจำ ดังตัวอย่างเช่นการเสด็จไปทรงบำเพ็ญพระกุศลวันมาฆบูชาเป็นการส่วนพระองค์ที่วัดพระปฐมเจดีย์ เป็นอาทิ

บทความที่น่าสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ชมวีดิทัศน์การบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์